1. ไม่ขัดผิวหน้าบ่อยเกินไป การขัดเซลล์ผิวหน้าที่เสื่อมสภาพจะช่วยทำให้รูขุมขนสะอาด และช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกไป แต่ถ้าขัดผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวแห้งแดง เกิดการระคายเคือง และเป็นสาเหตุของผิวหนังอักเสบได้ โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหา ยิ่งขัดผิวหน้ามากขึ้นเท่าไร จะยิ่งทำให้ผิวหน้าพังมากเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการขัดหน้าแรง ๆ เพราะจะทำให้สิวและสิวหัวดำเห่อมากขึ้น ทั้งยังไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันใต้ผิวเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นสาว ๆ ควรขัดผิวหน้าเบา ๆ แค่เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอนะคะ 2. ไม่แกะ ไม่บีบสิว สาว ๆ ทั้งหลาย ห้ามแกะและบีบสิวหัวดำเป็นอันขาดนะคะ แม้บางครั้งเจ้าสิวจะขึ้นมาล่อตาล่อใจให้อยากแกะเสียเหลือเกิน แต่รู้ไหมคะว่าการแกะสิวนั้นเป็นการทำร้ายผิวสุด ๆ เพราะจะทำให้ผิวหน้าบอบบาง รูขุมขนกว้าง เกิดการอักเสบติดเชื้อ และเป็นแผลเป็นได้ ซึ่งการกำจัดสิวหัวดำที่ดีที่สุดก็คือการกดสิวนั่นเอง โดยสามารถทำได้ด้วยตนเองหรือผู้เชี่ยวชาญค่ะ 3. เตรียมผิวหน้าให้พร้อมก่อนกดสิว การกดสิว
รักษารอยยุงกัด
1. ดินสอพอง และน้ำมะนาว สูตรนี้เป็นสูตรที่นิยมกันมากในหมู่สาว ๆ ค่ะ โดยเฉพาะกับรอยยุงกัดที่เป็นรอยดำ ให้นำดินสอพองกับน้ำมะนาวสด ๆ มาผสมให้เข้าจนได้เนื้อครีมข้น ๆ จากนั้นให้นำมาพอกผิวตรงจุดที่มีรอยยุงกัด ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รอยดำจากรอยยุงกัดจะค่อย ๆ จางลงและหายไปในที่สุดค่ะ 2. ขมิ้นชัน นำขมิ้นชันมาล้างน้ำ ปอกเปลือก แล้วโขลกให้ละเอียด จากนั้นให้นำมาพอกทิ้งไว้บริเวณที่มีรอยยุงกัด ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก ทำบ่อย ๆ รอยดำจะค่อย ๆ จางลง หรือหากใครที่คันมาก ๆ ก็สามารถนำผงขมิ้นมาละลายกับน้ำสะอาดแล้วนำมาทาบ่อย ๆ ก็จะช่วยลดอาการคันได้ค่ะ
เพื่อผิวสวยปังไม่กลัวเปียก
1. ชำระล้างร่างกายให้สะอาด ช่วงฤดูฝนแบบนี้ควรหลีกเลี่ยงการโดนฝนจะดีที่สุดนะคะ แต่หากสาว ๆ คนไหนที่เพิ่งเปียกฝนมาละก็ เมื่อกลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำล้างหน้า และสระผมด่วน ๆ เลยนะคะ เพราะนอกจากจะเสี่ยงเป็นหวัดแล้วยังเสี่ยงต่อผิวเสียอีกด้วย เพราะในน้ำฝนมีทั้งฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และเชื้อโรคมากมาย ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้ค่ะ 2. ใช้โทนเนอร์เช็ดหน้า บางครั้งการล้างหน้าอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะในน้ำฝนนั้นมีแต่ฝุ่นและมลพิษมากมาย จึงแนะนำว่าหลังล้างหน้าเสร็จ ควรเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อขจัดสิ่งตกค้างบนรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของสิวอุดตัน และยังช่วยกระชับรุขุมขน และช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้พร้อมก่อนการบำรุงในขั้นต่อไปอีกด้วยค่ะ 3. บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่มีความชื้นในอากาศค่อนข้างมาก อาจทำให้ผิวแห้ง และขาดความชุ่มชื้นได้ สาว ๆ จึงควรหมั่นบำรุงผิวด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผิวแห้งและช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้นานยิ่งขึ้นค่ะ 4. ทาครีมกันแดด ถึงแม้ว่าแสงแดดในหน้าฝนจะไม่แรงเท่าแดดในหน้าร้อน เพราะท้องฟ้าดูมืดครึ้มตลอดเวลา แต่จริง ๆ
นมจืดพอกหน้าได้ไหม
1. นมจืด กับสำลีแผ่น นำนมจืดมาเทใส่ถ้วย จากนั้นใช้สำลีแผ่นบาง ๆ มาชุบกับน้ำนมแล้วนำขึ้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า เหมือนทำเป็นแผ่นมาสก์หน้า เสร็จแล้วให้พักทิ้งไว้จนสำลีแห้งหมาด ๆ หรือประมาณ 30 นาที แล้วค่อย ๆ แกะออก นำนมสดที่เหลือมานวดหน้าอีกครั้ง แล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยทั้งเรื่องความกระจ่างใส เนียนนุ่ม และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วยค่ะ 2. นมจืด น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว นำนมจืดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และน้ำมะนาวอีกเล็กน้อย คนส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นให้นำมาทาพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้งแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะรู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นและเนียนนุ่มขึ้นทันตาเห็น 3. นมจืด และมะเขือเทศ นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ
น้ำผึ้ง ให้ผลน่าทึ่งพร้อมผิวสวย
สูตรที่ 1 เพิ่มความเนียนนุ่มให้กับใบหน้า สูตรนี้เป็นสูตรที่ง่ายมาก ๆ เพราะใช้แค่น้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ โดยหลังจากที่สาว ๆ ล้างหน้าจนสะอาดหมดจดและเช็ดให้แห้งแล้ว ให้นำน้ำผึ้งมาทาบาง ๆ ทั่วใบหน้า พร้อมนวดวนไปเรื่อย ๆ ประมาณ 5 นาที จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นก็พอกทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออก สาว ๆ จะรู้สึกว่าผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ และเนียนนุ่มชุ่มชื่นขึ้นค่ะ สูตรที่ 2 เพื่อหน้าใสไร้สิว สาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาสิวอยู่ละก็ ลองพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งสูตรนี้เลยค่ะ เพียงใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมกับผงอบเชย 1 ช้อนชา จากนั้นนำมาแต้มบนหัวสิว
ไข่ขาวช่วยให้ ผิวกระจ่างใสไร้สิว
สูตรที่ 1 มาสก์ไข่ขาว+มะนาวลดสิว สูตรนี้ช่วยลดสิวและลดความมันบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี เพียงใช้ไข่ขาว 1 ฟอง ผสมด้วยน้ำมะนาว 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นใช้สำลีชุบส่วนผสมแล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มทาตั้งแต่คางขึ้นไปจนถึงแก้ม และทาวน ๆ บริเวณหน้าผาก เว้นบริเวณปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เมื่อมาสก์แห้ง ให้ล้างออกและนวดวนเบา ๆ ด้วยน้ำอุ่น และล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อปิดรูขุมขน สูตรที่ 2 เพื่อหน้าขาวกระจ่างใส มาสก์ไข่ขาวนอกจากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยจากสิวแล้ว ยังช่วยให้ใบหน้าของสาว ๆ ดูขาวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย เพียงใช้ไข่ขาว 1 ฟอง ผสมกับน้ำส้มสายชู
อะโวคาโดกับความงาม
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ทั้งวิตามินเอ ดี และอี ทั้งยังมีแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โปแตสเซียม ซัลเฟอร์ และน้ำมันจากธรรมชาติ ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ นอกจากอะโวคาโดจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการดูแลความสวยความงามของสาว ๆ ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกด้วย โดยเฉพาะสาว ๆ คนไหนที่อยากสวยด้วยธรรมชาติ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเคล็ดลับความงามจากอะโวคาโดทั้ง 9 ข้อ มาฝากสาว ๆ ทุกคนแล้วค่ะ 1. ขัดหน้าด้วยอะโวคาโด การผลัดเซลล์ผิวเป็นหนึ่งในสุดยอดวิธีที่ช่วยให้ผิวหน้าของสาว ๆ ดูกระจ่างใส เพราะเมื่อเราได้ขัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปแล้ว จะช่วยเผยให้เห็นผิวใส และยังมีความเนียนนุ่มชุ่มชื้นยิ่งขึ้น เพียงสาว ๆ นำอะโวคาโด 1 ลูกมาบดให้ละเอียด
มะเฟืองรักษาสิว
สูตรรักษาสิวจากมะเฟืองสูตรไหนที่น่าลองกันบ้าง 1. น้ำหมักมะเฟือง นำมะเฟืองสด 3 กิโลกรัม มาล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่น ๆ ใส่ลงไปในถังแบบที่มีฝาปิดล็อกได้ ตามด้วยใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปประมาณ 1 กิโลกรัม และน้ำสะอาดอีก 5 ลิตร เสร็จแล้วคนให้เข้ากัน เมื่อน้ำตาลทรายแดงละลายแล้วให้ปิดฝาถังล็อกให้สนิท หมักทิ้งไว้ประมาณ 1-3 เดือน เมื่อใช้ได้แล้วให้นำน้ำหมักมะเฟืองมากรองด้วยผ้าขาวบาง และเก็บใส่ขวดไว้ใช้ ซึ่งวิธีใช้น้ำหมักมะเฟืองนั้นให้นำมาทาหน้าพักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด น้ำหมักมะเฟืองจะช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้สิวอักเสบยุบลง รอยสิวและจุดด่างดำต่าง ๆ จะค่อย ๆ จากลง รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้ดีอีกด้วย 2. มะเฟือง และน้ำผึ้ง นำมะเฟืองสด 1
พอกหน้าลดรอยสิว
1. พอกหน้าด้วยมันฝรั่ง นอกจากมันฝรั่งจะนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิดแล้ว มันฝรั่งยังสามารถนำมาใช้บำรุงผิวพรรณให้สวยเนียนสดใส ไร้จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพราะในมันฝรั่งนั้นมีแร่ธาตุสำคัญและสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวมากมาย ได้แก่ วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในแป้งมันฝรั่ง ที่ช่วยลดความหมองคล้ำและริ้วรอย ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้ เพียงนำมันฝรั่งไปปั่นให้ละเอียด แล้วนำเนื้อมันฝรั่ง หรือน้ำมันฝรั่งมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมื่อแห้งให้นำแผ่นมันฝรั่งสดที่ฝานไว้ มาถูวนเบา ๆ เป็นการขัดหน้าอีกครั้งประมาณ 10 นาที นอกจากมันฝรั่งจะช่วยลดรอยดำจากสิวได้แล้ว ยังใช้ขัดลดริมฝีปากคล้ำ และใต้วงแขนคล้ำได้อีกด้วยนะคะ 2. พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในด้านความสวยความงามเป็นอย่างมาก ทั้งช่วยสมานแผลพุพอง ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง และยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าที่มีปัญหาสิว จุดด่างดำ และริ้วรอยต่าง ๆ ให้ดูเรียบเนียนสดใสและเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น เพียงนำใบว่านหางจระเข้ที่ตัดไปแช่น้ำสะอาดแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองออกให้หมด และปอกเปลือกให้เหลือแต่วุ้น
กู้ผิวแห้งเสียให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
1. มอยส์เจอไรเซอร์ ต้องทาทุกวันห้ามขาด เพราะมอยส์เจอไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีที่สุด และช่วยกักเก็บน้ำในผิวให้อยู่ได้ยาวนาน ซึ่งปัจจุบันมีครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์มากมาย ดังนั้นสาว ๆ ต้องซื้อมาไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งอย่าให้ขาดเลยค่ะ แล้วทาทุกวันเช้า-เย็น แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำ ขณะที่ผิวยังเปียกหมาด ๆ จะยิ่งทำให้มอยส์เจอไรเซอร์กักเก็บน้ำในผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ 2. ว่านหางจระเข้ ช่วยได้ ! ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากว่านหางจระเข้มาให้สาว ๆ ผิวแห้งทั้งหลายได้เลือกใช้โดยเฉพาะ แถมยังช่วยบำรุงผิวได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ผิวแห้งกร้านมาก ๆ ให้บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้เป็นประจำ หรือจะนำว่านหางจระเข้สด ๆ มาพอกผิวบ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ วิธีนี้จะช่วยทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นได้เร็ว แถมยังอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวที่บอบบางอีกด้วย 3. สูตรพอกผิวจากธรรมชาติที่ต้องลอง ! ผิวที่แห้งกร้านต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ ดังนั้นในแต่ละสัปดาห์สาว ๆ ควรบำรุงผิวด้วยการพอกผิวอย่างน้อย 1-2